ไทยจัดใหญ่ไม่แพ้ใคร  แบดโธมัส-อูเบอร์คัพ

ไทยจัดใหญ่ไม่แพ้ใคร  แบดโธมัส-อูเบอร์คัพ

 

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือนแล้ว ประเทศไทย โดยสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ที่มีคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เป็นนายกสมาคมฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการตบลูกขนไก่ไทยในการแข่งขันแบดมินตันประเภททีมชิงแชมป์โลก ทีมชาย “โธมัส คัพ” และทีมหญิง “อูเบอร์ คัพ” รอบไฟนอล (TOTAL BWF Thomas & Uber Cup Finals 2018) ระหว่างวันที่ 20-27 พฤษภาคมนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

 

เหตุผลที่ต้องบอกว่า แบดมินตันรายการนี้มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นการแข่งขันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราว ประวัติศาสตร์ และเกียรติยศที่นักกีฬาทุกคนไขว่คว้า แน่นอนที่สุดว่า สุดยอดของการแข่งขันแบดมินตันประเภทบุคคล ต้องเป็น รายการออล อิงแลนด์ ในประเทศอังกฤษ ประเทศต้นตำรับของกีฬาประเภทนี้ แต่ถ้าเป็นประเภททีม ต้องเป็นรายการ โธมัส-อูเบอร์ คัพ ที่ครองความเป็นรายการอันดับ 1 ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในประเทศไทย เป็นครั้งแรกอีกในไม่ช้า

หากมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ การแข่งขันชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย เริ่มขึ้นก่อน ในปี 1949 โดยก่อนหน้านั้น ในปี 1939 เซอร์จอร์จ โธมัส ประธานคนแรกของสหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ ต้องการส่งเสริมกีฬาประเภทนี้อย่างจริงจัง จึงได้มอบถ้วยรางวัลชนะเลิศให้ทีมแชมป์ เป็นถ้วยทอง ราคา 5,000 ปอนด์ ซึ่งการแข่งขันก็มีมาอย่างต่อเนื่อง ถึงวันนี้ ผ่านมา 69 ปี จนกลายเป็นรายการแข่งขันที่มีอายุยืนนาน มีมนต์เสน่ห์ และความขลัง ทุกชาติต่างต้องการคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาครองให้ได้

 

ขณะที่ ทีมหญิง เริ่มการแข่งขันในปี 1957 หลังจากทีมชาย 8 ปี โดยในปี 1955 เบ็ตตี้ อูเบอร์ หรือ เอช.เอส อูเบอร์ นักตบลูกขนไก่หญิงยอดเยี่ยมของอังกฤษ ได้มอบถ้วยรางวัลชนะเลิศสำหรับนักกีฬาหญิงของสหพันธ์ฯ เพื่อเป็นรางวัลให้ทีมแชมป์ แม้จะเริ่มแข่งขันหลังจากทีมขาย แต่เสน่ห์และมนต์ขลังของการแข่งขัน ก็ไม่ได้แตกต่างจากทีมชาย ถึงเวลานี้ การชิงชัยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 61 แล้ว



ทั้งนี้ การแข่งขันทีมชาย และทีมหญิงชิงแชมป์โลก ได้ถูกรวมเข้าด้วยกัน เพื่อชิงชัยไปพร้อมกัน ตั้งแต่ปี 1982 เป็นต้นมา โดยจัดขึ้นในทุก ๆ 2 ปี

 

คุณหญิงปัทมา ในฐานะประธานจัดการแข่งขัน กล่าวว่า “ครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาแบดมินตันไทย เพราะเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ และเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่จัดการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยครั้งล่าสุด มาเลเซีย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เมื่อปี 2010”

 

“สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ได้เตรียมงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดการแข่งขันครั้งนี้ให้ยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยความพร้อมของทีมงานและบุคลากรที่มากความสามารถและประสบการณ์ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับทุก ๆ ชาติที่จะเดินทางมาร่วมแข่งขัน” คุณหญิงปัทมา กล่าว

 

นอกจากการเตรียมงานที่เดินหน้าไปอย่างต่อเนื่องแล้ว อีกสีสันที่ถือว่าน่าสนใจ เป็นมาสคอตประจำการแข่งขัน ที่ชื่อ “น้องไอยรา” (Nong Iyara) ซึ่งคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ได้พิจารณาเลือก “ช้าง” เป็นมาสคอต เนื่องจากเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติ และเป็นการแสดงออกถึงความเป็นไทย  รวมทั้งช้างยังมีความหมายถึง ความโชคดี ความรุ่งเรือง และความอดทน ซึ่งทั้ง 3 คุณลักษณะนี้ เป็นสิ่งที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันต้องการอวยพรให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ทุกคน โดยได้ออกแบบให้ “น้องไอยรา” นุ่งโจงกระเบนลวดลายโลโก้การแข่งขัน

 

ส่วนการแข่งขัน ได้มีการจับสลากแบ่งกลุ่มไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมอโนมา แกรนด์ ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน ผลปรากฏว่า ทีมชาย โธมัส คัพ หนุ่มไทย อยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ "รองแชมป์เก่า" อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, แคนาดา ส่วน กลุ่ม เอ มี จีน, อินเดีย, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, กลุ่ม ซี ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, ฮ่องกง และ กลุ่ม ดี "แชมป์เก่า" เดนมาร์ก, มาเลเซีย, รัสเซีย, แอลจีเรีย

 

ขณะที่ ทีมหญิง อูเบอร์ คัพ สาวไทย อยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ ไต้หวัน, เยอรมนี, ฮ่องกง ส่วน กลุ่ม เอ "รองแชมป์เก่า” ญี่ปุ่น, อินเดีย, แคนาดา, ออสเตรเลีย, กลุ่ม ซี เกาหลีใต้, เดนมาร์ก, รัสเซีย, มอริเชียส และกลุ่ม ดี "แชมป์เก่า" จีน, อินโดนีเซีย, ฝรั่งเศส, มาเลเซีย

 

 

คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า สมาคมฯ หวังผลสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้  โดยทีมชาย ตั้งเป้าเบื้องต้นที่จะผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ส่วนทีมหญิง มั่นใจว่า จะสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นอย่างน้อย แต่จากการวิเคราะห์วิจารณ์ของผู้เชี่ยวชาญในวงการกีฬาแบดมินตัน ทีมหญิงของไทยน่าจะมีโอกาสเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ได้

 

โดยจากสถิติที่ผ่านมา รายการ โธมัสคัพ ทีมหนุ่มไทย เคยทำผลงานดีที่สุด คือ การคว้ารองแชมป์ ในปี 1961 ส่วนชาติที่ได้แชมป์ไปครองมากที่สุด เป็น อินโดนีเซีย 13 สมัย รองลงมา จีน 9 สมัย มาเลเซีย 5 สมัย และเกาหลีใต้ 1 สมัย ขณะที่ อูเบอร์คัพ ทีมสาวไทย ทำผลงานดีที่สุด กับการคว้าอันดับ 3 ร่วม เมื่อปี 2012 โดยมีจีน ได้แชมป์ไปครองมากที่สุด 14 สมัย รองลงมา ญี่ปุ่น 5 สมัย อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา 3 สมัย และเกาหลีใต้ 1 สมัย

 

แฟนกีฬา เตรียมพร้อมให้กำลังใจนักตบลูกขนไก่ไทย ทั้งทีมชายและทีมหญิงกันได้ โดยผู้ที่สนใจ สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้แล้ว ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ www.thaiticketmajor.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในราคา 200, 300, 500, 700, 800, 1,200, 1,500, 2,000 และ 2,500 บาท โดยบัตร 1 ใบ สามารถเข้าชมได้ทุกรอบในวันที่ระบุในบัตร

 

เสียงเชียร์ ถือเป็นกำลังใจที่ดีเยี่ยม เป็นพลังแฝง ที่จะส่งผ่านไปยังนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติทุกคน ให้เค้นฟอร์มเก่งออกมา ทำผลงานสร้างชื่อให้กับประเทศ จึงขอใช้โอกาสนี้ในการเชิญชวนคนไทยไปให้กำลังใจนักกีฬาแบดมินตันไทยในสนามแข่งขัน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของวงการกีฬาแบดมินตันไทย ...