"แพท-กัสจัง" บินกลับถึงไทยหลังคว้ารองแชมป์แบดมินตันเยาวชนเอเชีย เตรียมลุยเยาวชนโลก

หลังจากที่ "แพท" หทัยทิพย์ มิจาด กับ "กัสจัง" ณปภากร ตุงคะสถาน นักแบดมินตันประเภทหญิงคู่เยาวชนทีมชาติไทย สามารถคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันรายการ เอเชีย จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 (Badminton Asia Junior Championships) หรือศึกเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ที่เมืองโซโล่ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

เมื่อช่วงดึกของวันจันทร์ที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา  "แพท" หทัยทิพย์ มิจาด กับ "กัสจัง" ณปภากร ตุงคะสถาน พร้อมด้วย "โค้ชกิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน AK 896 ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีพลอากาศเอก มณฑล สัชฌุกร นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และแสดงความยินดีกับ  "แพท" กับ "กัสจัง" ด้วย 

พลอากาศเอก มณฑล สัชฌุกร นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย  ได้กล่าวว่า  "ภาพรวมของการแข่งขันแบดมินตัน เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย 2025 นี้ ประสบความสำเร็จด้วยการคว้ามาได้ 2 เหรียญเงินจาก ประเภททีมผสม และ ประเภทหญิงคู่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เห็นว่านักแบดมินตันเยาวชนไทยนั้น มีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ได้ในอนาคต และตัวผมเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า น้องๆนักแบดมินตันทุกคนจะตั้งใจฝึกซ้อมให้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดต่อไป ขอให้แฟนๆแบดมินตันทุกคนช่วยให้กำลังใจนักกีฬาเหล่านี้กันต่อไป"

 ด้าน  "แพท" หทัยทิพย์ มิจาด กับ "กัสจัง" ณปภากร ตุงคะสถาน  ให้สัมภาษณ์หลังจบรายการนี้ว่า "รู้สึกพอใจกับผลงานในเยาวชนชิงแชมป์เอเชียมากๆ ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะได้ขึ้นโพเดียมรับเหรียญด้วย พยายามทำผลงานให้ดีที่สุดในแต่ละรอบ เต็มที่ในทุกๆแมตช์ สำหรับรายการเยาวชนเอชีย เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างมาก ทั้งในเรื่องของสภาพจิตใจ ในการแข่งขันทั้งประเภททีมผสม และ ประเภทบุคคล เพราะคู่ต่อสู้ในแต่ละแมตช์มันต่างกัน เราต้องปรับรูปแบบการเล่นตลอดเวลา ทั้งการออกลูก วิธีการเล่นในช็อตต่างๆ หลังจากนี้ ก็จะมีการแข่งขัน 2 รายการที่โคราช ก็คือ โตโยต้า อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรี่ส์ และ โตโยต้า อินเตอร์เนชั่นแนล ชาเลนจ์ ระหว่างวันที่ 5-17 ส.ค.68 นี้ ที่ เทอร์มินอล ฮอลล์ ศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 โคราช จ.นครราชสีมา และรายการสำคัญอย่างเยาวชนชิงแชมป์โลก 2025 ระหว่างวันที่ 6-19 ต.ค.68 นี้ ที่เมืองกุวาฮาติ ประเทศอินเดีย 

ขณะที่ "โค้ชกิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล อดีตนักแบดมินตันหญิงคู่ทีมชาติไทย ซึ่งได้ผันตัวมาทำหน้าที่โค้ช ได้เผยว่า การทำหน้าที่โค้ช กับ การเป็นนักกีฬามันต่างกันโดนสิ้นเชิง มันต้องใช้จิตวิทยาค่่อนข่างสูงมาก เพราะตัวน้องๆนักกีฬาเวลาเขาลงไปเล่นจะมีความกดดันอยู่แล้ว ซึ่งน้องก็จะมีความคาดหวังอยู่ในตัวว่าจะต้องทำแต้มให้ได้ ต้องเอาชนะให้ได้ ซึ่งเราก็บอกน้องว่าต้องแก้ปัญหา ก็คือ อย่าไปคาดหวังกับมันเยอะ เพราะเวลาลงสนามไปแล้ว เราแบกอะไรที่มันเยอะมากๆ 

โค้ชกิ๊ฟ ยังเผยอีกว่า การได้มีเป็นโค้ชให้กับ "แพท" หทัยทิพย์ มิจาด กับ "กัสจัง" ณปภากร ตุงคะสถาน นั้น ถ้าน้องเขาไปในทิศทางเดียวกัน ไปในทางที่เราขีดไว้ เชื่อว่าศักยภาพของกิ๊ฟ กับ กัสจัง ค่อนข้างดีมากๆ เพราะน้องก็มีพื้นฐานมาดีอยู่แล้ว คิดว่า เราจะพยายามไม่ค่อยหย่อนยานกันอยู่แล้ว แต่รู้อยู่แล้วว่า ขีดจำกัดของน้องมันดีกว่าคนอื่น ซึ่งเขาไปได้อย่างแน่นอน แต่จะออกไปในกรอบที่เราตีไว้หรือไม่ตรงนี้เราตอบไม่ได้ การพัฒนาเยาวชนขึ้นมา มีความยากแตกต่างกันไป ด้วยเจเรเนชั่นในแต่ละวัยมันสิ่งที่เย้ายวนใจเขาตลอดเวลามากขึ้น จุดนี้มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการพัฒนาเยาวชนมาทดแทนรุ่นพี่ ทัศนคติ การแก้ไขปัญหา ถ้าเทียบกับรุ่นกิ๊ฟเอง ทุกอย่างต้องทำออกมาเป๊ะทุกอย่างจะออกไปในทางเดียวกัน แต่กับเด็กหรือเยาวชนรุ่นนี้ มันมีสิ่งต่างๆมาให้สนใจ และดึงดูดมากขึ้นหลายอย่างมันก็จะยากนิดนึง 

โค้ชกิ๊ฟ กล่าวปิดท้ายว่า น้องหรือเยาวชนที่ก้าวขึ้นมาสู๋ทีมชาติ จะต้องโฟกัสกับการฝึกซ้อมที่เราวางไว้ให้มากขขึ้น ต้องมีสมาธิให้ดีในเกมการเล่น เกี่ยวกับรายละเอียดการซ้อมต่างๆ ซึ่งเด็กเยาวชนไม่รู้ว่า รูปแบบการฝึกซ้อมในแต่ละอย่างจะมีความเข้มข้นมากขึ้น ตรงนี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้