"ขนไก่ไทย" ฟอร์มเจ๋ง! กวาด 4 ทอง คว้าเจ้า "ซีเกมส์" สร้างประวัติศาสตร์มากสุดตั้งแต่แข่งขันมา 58 ปี

 

การแข่งขันกีฬาแบดมินตันในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 29 ส.ค. รอบชิงชนะเลิศ มีนักตบลูกขนไก่ทีมชาติไทยเข้ามาถึงรอบนี้ 4 ประเภท เริ่มที่คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์/"ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 7 ของโลก และมือวางอันดับ 1 ของรายการ ใช้เวลา 42 นาทีปิดเกมเอาชนะ โกห์ ซูน ฮวต/เชวอน เจมี่ ไล คู่มืออันดับ 17 ของโลก และมือวางอันดับ 2 ของรายการ 2-0 เกม 21-15, 22-20 และเป็นนักแบดมินตันไทยที่คว้าแชมป์ประเภทนี้ในรอบ 14 ปี หลังจากคู่สุดท้ายที่ทำได้คือ สุดเขต ประภากมล/สราลีย์ ทุ่งทองคำ ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ที่ประเทศเวียดนาม เมื่อปี ค.ศ.2003 ขณะเดียวกัน ไทยยังได้อีก 1 เหรียญทองแดงจาก "อาท"บดินทร์ อิสสระ/"เอ็มเอ็ม"สาวิตรี อมิตรพ่าย

          จากนั้น ชายเดี่ยว "เพชร" โฆษิต เพชรประดับ มืออันดับ 40 ของโลก และมือวางอันดับ 2 ของรายการ ต้านทานความแข็งแกร่งของ โจนาธาน คริสตี้ มืออันดับ 22 ของโลก และมือวางอันดับ 1 ของรายการ จากอินโดนีเซีย ไม่ไหว พ่ายไป 0-2 เกม 19-21, 10-21 ทำให้ โฆษิต ได้เพียงเหรียญเงิน

          หญิงคู่ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย/"เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล คู่มืออันดับ 11 ของโลก และมือวางอันดับ 1 ของรายการ ดีกรีแชมป์ประเทศไทย 2 สมัยหลังสุด พบ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติะรากุล/"วิว" รวินดา ประจงใจ คู่มือ 12 ของโลก รองแชมป์ประเทศไทย 2 ครั้งล่าสุด ผลปรากฎว่า เกมแรก คู่ จงกลพรรณ-รวินดา ชนะไปก่อน 21-16 เข้าเกมสอง ขณะที่คู่ ทรัพย์สิรี-พุธิตา นำ 7-6 ทรัพย์สิรี ถอยกระโดดตบโอเวอร์เฮด แต่จังหวะลงพื้นเข่าซ้ายมีอาการบิดจนล้มลงเมื่อปฐมพยาบาลแล้ว เจ้าตัวยังกัดฟันสู้ต่อ แต่ขอยอมแพ้ไปขณะนำ 8-7 ส่งผลให้คู่ จงกลพรรณ-รวินดา เป็นหญิงคู่ไทยในรอบ 46 ปี ที่คว้าเหรียญทองได้ ต่อจาก ทองคำ กิ่งมณี/อัจฉรา ปัตตพงศ์ ในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 6 ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี ค.ศ.1971 ส่วนคู่ ทรัพย์สิรี-พุธิตา ได้เหรียญเงิน พร้อมกับทำให้ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี พลาดโอกาสเป็นแบดมินตันไทยคนเดียวในประวัติศาสตร์ ที่คว้าเหรียญทองได้ถึง 3 เหรียญภายในการแข่งขันครั้งเดียว เพราะก่อนหน้านี้ได้เหรียญทองจาก ทีมหญิง และ คู่ผสม ไปแล้ว

          ชายคู่ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์/"สกาย" กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มืออันดับ 22 ของโลก และมือวางอันดับ 4 ของรายการ ดีกรีแชมป์เยาวชนโลก ปี ค.ศ.2014 เอาชนะ ออง ยิว ซิน/โท เอ อี้ คู่มืออันดับ 18 ของโลก และมือวางอันดับ 3 ของรายการ จากมาเลเซีย 2-1 เกม 21-19, 20-22, 21-17 คว้าเหรียญทองประเภทนี้ได้ในรอบ 18 ปี หลังจากคู่สุดท้ายที่ทำได้คือ ปราโมทย์ ธีระวิวัฒน์ กับ เทศนา พันธ์วิศวาส ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่ประเทศบรูไน เมื่อปี ค.ศ.1999 ขณะที่ "อาท" บดินทร์ อิสสระ/"ต้นน้ำ" นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ได้เหรียญทองแดง

          หญิงเดี่ยว เป็นการเข้าชิงกันเองของนักตบลูกขนไก่เจ้าภาพ โกห์ จิน เหว่ย มืออันดับ 28 ของโลก และแชมป์เยาวชนโลกปี ค.ศ.2015 เอาชนะ โซเนีย เชียะ มืออันดับ 24 ของโลก และมือวางอันดับ 4 ของรายการ 2-0 เกม 21-11, 21-10 ขณะที่นักแบดมินตันไทยได้เหรียญทองแดงจาก "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์

           โดยสรุป ในการแข่งขันครั้งนี้ ทีมแบดมินตันไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลไปได้ 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นการคว้าเหรียญทองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแหลมทอง หรือ เซียพเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพมหานคร ในปี ค.ศ.1959 หลังจากเคยได้มากที่สุด 3 เหรียญทอง ในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 2 ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อปี ค.ศ.1961 ขณะเดียวกัน ทรัพย์สิรี, เดชาพล, จงกลพรรณ และรวินดา เป็นนักแบดมินตันไทยต่อจาก เพ็ญแข โพธิ์งาม ที่คว้าได้ถึง 2 เหรียญทองภายในการแข่งขันครั้งเดียว โดย เพ็ญแข ได้จากประเภทหญิงคู่ กับ สุมล จันทร์กล่ำ และคู่ผสม กับ ระพี กาญจนระพี ในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 2 ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อปี ค.ศ.1961

           หลังการแข่งขัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า เป็นผลงานที่เหนือความคาดหมายของนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยที่คว้าได้ถึง 4 เหรียญทอง จึงต้องชื่นชมทีมงานผู้ฝึกสอน นักกีฬา ที่เตรียมความพร้อมกันมาเป็นอย่างดี จนทำให้ประสบความสำเร็จเช่นนี้ และเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการกีฬาแบดมินตันไทยได้อีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงปอป้อ ทรัพย์สิรี มากกับการบาดเจ็บระหว่างการแข่งขัน โดยในช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้ ปอป้อมีกำหนดการเข้าร่วมแข่งขันรายการใหญ่ระดับซูเปอร์ซีรี่ส์ "โคเรีย โอเพ่น" ที่เกาหลีใต้

          คุณหญิงปัทมา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ต้องขอแสดงความยินดีกับทีมชุดมหาวิทยาลัยโลก ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม และเป้าหมายต่อไปในระยะอันใกล้นี้ของสมาคมฯ คือ การวางแผนเตรียมนักกีฬาเพื่อส่งไปแข่งขันเก็บคะแนนอันดับโลก ก่อนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในรายการแบดมินตันชิงแชมป์โลกประเภททีม "โทมัสคัพ - อูเบอร์คัพ 2018" ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในเดือนพฤษภาคม ปีหน้า และกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เพราะเราหวังที่จะทำผลงานให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และต่อยอดสู่โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2020 ต่อไป ซึ่งเป้าหมายของเราคือ การคว้าเหรียญรางวัลมาครองให้ได้เป็นครั้งแรก